สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) โดยสัญญาเคลื่อนไหวเข้าใกล้ระดับ 84 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่ให้ความสนใจต่อรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และไม่ให้น้ำหนักต่อตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ปรับตัวลดลงในเดือนมี.ค.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.39 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 83.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 83.76-82.65 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 4.74 เซนต์ แตะที่ 2.1790 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3.51 เซนต์ แตะที่ 2.3072 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จากบริษัท พีเอฟจีเบสท์ ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวว่า การอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับยูโร ได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่ง เพราะสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงทำให้มูลค่าสัญญาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆมีราคาถูกลงด้วย โดยนักลงทุนแรงซื้อส่งเข้าหนุนตลาดอย่างต่อเนื่องแม้ทางการสหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีรายงานว่าภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลงในเดือนมี.ค.ก็ตาม
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 26 มี.ค.พุ่งขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล หรือ 0.8% แตะที่ระดับ 354.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ซึ่งได้รับการสำรวจโดยบริษัท แมคกรอว์-ฮิลส์ คอส คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.65 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล หรือ 0.1% แตะที่ 224.9 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและฮีทติ้งออยล์ ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 144.6 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะร่วงลง 1.2 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น 1.5% มาอยู่ที่ระดับ 82.6%
ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 23,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการจ้างงาน 40,000 ตำแหน่ง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้ปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ เปิดเผยแผนการอนุญาตให้มีการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งสหรัฐในมหาสมุทรแอตแลนติกและอ่าวเม็กซิโก โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้สหรัฐลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ และเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน ควบคู่ไปกับการควบคุมความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม