สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกก๊าซธรรมชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดยังคงได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังแข็งแกร่ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ลดลง 33 เซนต์ ปิดที่ 85.51 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.93-85.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นเล็กน้อย มาปิดที่ระดับ 2.2523 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ค.ลดลง 0.65 เซนต์ ปิดที่ 2.3262 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน พุ่งขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จากบีพีจีเบสท์ในสหรัฐกล่าวว่า ในช่วงเช้านั้น สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ทะยานขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวในอัตรา 11.9%ต่อปี คิดเป็นมูลค่าโดยรวม 8.06 ล้านล้านหยวน หรือ 1.19 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี และทางการสิงคโปร์รายงานว่าตัวเลข GDP ไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัว 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ตลาดได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 เม.ย.ร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล หรือ 0.6% มาอยู่ที่ระดับ 354 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บริษัทแมคกรอว์-ฮิลล์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล และอยู่ต่ำกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วราว 3.5%
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบได้ถอยร่นลงมาปิดในแดนลบ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกก๊าซธรรมชาติในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 เม.ย. พุ่งขึ้น 8.7 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุต มาอยู่ที่ระดับ 1.76 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 7.6 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุต
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานอาจส่งผลให้ดีมานด์พลังงานในสหรัฐซบเซาลงด้วย โดยเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 24,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 484,000 คน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันสองสัปดาห์