สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทรุดลงหนักสุดในรอบ 10 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังมีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ฟ้องโกลด์แมน แซคส์ ข้อหาฉ้อโกง ซึ่งฉุดให้ตลาดหุ้นร่วงลงรุนแรง
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ลดลง 2.27 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ร่วงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. มาปิดที่ 83.24 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในระหว่างวัน ราคาเคลื่อนตัวลงแตะระดับต่ำสุดที่ 82.52 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ค.ลดลง 3.54 เซนต์ มาปิดที่ระดับ 2.2169 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ค.ลดลง 4.92 เซนต์ ปิดที่ 2.277 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ลดลง 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 85.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
SEC กล่าวว่า โกลด์แมน แซคส์ หลอกลวงนักลงทุนด้วยการปิดบังผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวกับการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสินเชื่อซับไพรม์หนุนหลังหรือค้ำประกัน โดย SEC ระบุในแถลงการณ์ว่า โกลด์แมน แซคส์ กล่าวบิดเบือนและละเว้นการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่สำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีสินเชื่อบ้านด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ค้ำประกัน ในช่วงเวลาที่ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐเริ่มทรุดลง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข่าวโกลด์แมน แซคส์ ส่งผลให้เกิดแรงขายกดดันในหลายๆตลาด ตั้งแต่ตลาดหุ้นไปจนถึงสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดเงิน โดยปัจจัยดังกล่าวผลักดันให้นักลงทุนหันไปหาทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยกว่า โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบยูโรและปอนด์ ซึ่งทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาที่ดึงดูดใจน้อยลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ลดลงแตะ 69.5 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 73.6 ในเดือนมี.ค. นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนและสวนทางกับที่นักวิเคราะห์หวังว่าจะเพิ่มขึ้นแตะที่ระดับ 75