สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า วิกฤตการณ์การเงินในยุโรปอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและฉุดรั้งดีมานด์พลังงานหดตัวลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังถูกกดดันหลังจากบริษัทวิจัยของสหรัฐระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 70.08 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 70.30 - 69.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนมิ.ย.ลดลง 6.36 เซนต์ ปิดที่ 1.9970 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนมิ.ย.ร่วงลง 7.43 เซนต์ ปิดที่ 2.047 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 2.83 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักวิเคราะห์จากออยล์ไพรซ์ อินฟอร์เมชัน เซอร์วิส กล่าวว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงถูกดดันอย่างหนักจากความกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์การเงินในยุโรปอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและดีมานด์พลังงานทั่วโลก
นอกจากนี้ ตลาดได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย รวมถึงข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์กชะลอตัวลง รายงานที่ระบุว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนได้มาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว และยอดขายรถยนต์ในยุโรปที่หดตัวลง
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์กร่วงลงแตะระดับ 19.11 จุดในเดือนพ.ค. จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 31.86 จุด ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 30.00 จุดในเดือนพ.ค
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป (ACEA) รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ร่วงลง 7.4% ต่อปี ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน
สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐ ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจมาถึงจุดสูงสุดแล้ว ขณะที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เร่งดำเนินงานด้านการก่อสร้างก่อนที่รัฐบาลจะประกาศใช้มาตรการชะลอการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ของจีนพุ่งขึ้น 1.1% สู่ระดับ 144.5 จุด หลังจากขยับขึ้นเพียง 0.4% ในเดือนก.พ.
บิล อดัมส์ นักวิเคราะห์ของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะไม่ขยายตัวสูงไปกว่านี้ในตลอดช่วงฤดูร้อนนี้ ส่วนบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็พยายามเร่งโครงการก่อสร้างให้แล้วเสร็จก่อนที่รัฐบาลจะบังคับใช้มาตรการควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์