สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ดีดตัวขึ้น 19 เซนต์ แตะที่ 70.23 ดอลลาร์ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 พ.ค.) ที่ 70.04 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายยังคงซบเซาเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการที่รัฐบาลยุโรปใช้มาตรการลดยอดขาดดุลงบประมาณ อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ถึงกระนั้นก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่กรุงปักกิ่งว่า นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ จะกล่าวในที่ประชุมยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจจีน-สหรัฐว่า วิกฤตการณ์หนี้สาธารณะในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกไม่มากนัก
ด้านนายมูฮัมหมัด บิน ฮาหมัด อัล มาดี ซีอีโอบริษัท ซาอุดิ เบซิค อินดัสทรีส์ คอร์ป กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 65 ดอลลาร์จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 14 พ.ค.เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบอย่างน้อย 20 ปี และนับเป็นสัปดาห์ที่ 15 ในรอบ 16 สัปดาห์ที่ปริมาณน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น
สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 300,000 บาร์เรล แต่ก็สูงกว่าระดับในปีก่อนถึงเกือบ 9% และสต็อกน้ำมันกลั่นที่รวมถึงเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลและฮีทติ้งออยล์ ลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล แต่น้อยกว่าที่คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล