สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบดิ่งลงอย่างหนักเป็นเวลาหลายวัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.ดีดขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 70.21 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.57 - 70.96 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.96 เซนต์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1.9708 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนมิ.ย.ดีดขึ้น 0.26 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1.8993 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ปิดลบ 51 เซนต์ หรือ 0.71% แตะที่ 71.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนหลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 7.6% แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 5.77 ล้านยูนิต ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้อัตราว่างงานยังอยู่ในระดับสูงก็ตาม
นักลงทุนยังจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) หลังจากรมว.พลังงานลิเบียออกมาแสดงความวิตกกังวลที่ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม รมว.พลังงานลิเบียมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะชี้ชัดว่าโอเปคจะปรับเปลี่ยนโควต้าการผลิตน้ำมันในระยะนี้หรือไม่
ด้านนายฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซูเอล่า กล่าวว่า เวเนซูเอล่าจะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในปีนี้และปีหน้า สวนทางกับที่กระทรวงพลังงานเวเนซูเอล่าให้ข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้ว่า เวเนซูเอล่าจะยังไม่ปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันในปีนี้
คณะกรรมการกำกับดูแลการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐ (CFTC) เปิดเผยว่าในรายงานว่า กลุ่มเฮดจ์ฟันด์ได้เข้ามาเทขายสัญญาน้ำมันดิบมากที่สุดในรอบเกือบ 8 เดือน โดยได้เทขายสัญญาน้ำมันดิบไปแล้วราว 32% หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรปจะส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงาน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) จะรายงานในคืนวันอังคารตามเวลาประเทศไทย และรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่กระทรวงพลังงานสหรัฐจะรายงานในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 14 พ.ค.เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบอย่างน้อย 20 ปี และนับเป็นสัปดาห์ที่ 15 ในรอบ 16 สัปดาห์ที่ปริมาณน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น
สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 300,000 บาร์เรล แต่ก็สูงกว่าระดับในปีก่อนถึงเกือบ 9% และสต็อกน้ำมันกลั่นที่รวมถึงเชื้อเพลิงน้ำมันดีเซลและฮีทติ้งออยล์ ลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล แต่น้อยกว่าที่คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล