สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ทะยานขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.6% แตะที่ 75.17 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อเวลา 11.12 น.ตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ 73.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ใช้พลังงานรายใหญ่สุดของโลก
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปส่งผลให้เฟดยังคงต้องคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก โดยการคงอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลกดดันสกุลเงินดอลลาร์ แต่จะเป็นปัจจัยหนุนสัญญาน้ำมันดิบ
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งสหรัฐ (AAA) คาดการณ์ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่จะนำรถยนต์ออกไปขับขี่บนทางหลวงในช่วงวันหยุดเมมโมเรียล เดย์ จะเพิ่มขึ้น 5.8% สู่ระดับ 28 ล้านคน พร้อมระบะว่า โดยทั่วไปแล้วดีมานด์น้ำมันเบนซินในสหรัฐช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค.จะพุ่งขึ้นสูงสุด เนื่องจากประชาชนจะนำยานยนต์ออกไปขับขี่ในช่วงฤดูร้อน
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 21 พ.ค. เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 365.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 300,000 บาร์เรล แตะระดับ 152.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 200,000 บาร์เรล แตะระดับ 221.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งสอดคล้องกับที่มีการคาดการณ์ไว้ และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.1% มาอยู่ที่ระดับ 87.8%