สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเมื่อ 2 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเห็นในด้านบวกต่อเศรษฐกิจ และการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่แล้วจะปรับตัวลดลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 71.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 70.75 - 72.40 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ค.ลดลง 0.30 เซนต์ ปิดที่ 1.9653 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนก.ค.ลดลง 0.58 เซนต์ ปิดที่ 1.9591 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค. ดีดขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 72.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 71.26 - 72.70 ดอลลาร์
นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเมื่อ 2 วันทำการที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์หนี้สาธารณะในยุโรป และตลาดจ้างงานในสหรัฐที่ยังเปราะบาง อาจส่งผลกระทบต่อดีมาน์ดพลังงานด้วย โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 508,000 ตำแหน่ง และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐใน
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดที่กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ABC News ที่วอชิงตัน ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวในระดับปานกลางและไม่มีแนวโน้มที่จะเผชิญภาวะถดถอยรอบใหม่ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ช่วยให้นักลงทุนส่วนใหญ่ผ่อนคลายจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป รวมถึงฮังการี
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 มิ.ย. ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูความคืบหน้าของบริษัท บีพี พีแอลซี ในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก โดยเมื่อวานนี้นายโทนี่ เฮย์เวิร์ด ซีอีโอของบีพี เปิดเผยว่า ณ วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา บีพีสามารถดักจับน้ำมันได้ 11,100 บาร์เรลจากบ่อน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่ท้องทะเล ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าวันก่อนหน้านั้น และยืนยันว่า ท่อท่อนใหม่ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรมของบีพีนำมาต่อเข้ากับท่อน้ำมันที่รั่วเพื่อดูดน้ำมันให้ลอยขึ้นไปบนผิวน้ำและให้เรือทำการดักจับน้ำมันนั้น ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถดักจับน้ำมันได้ในปริมาณที่มากขึ้นด้วย
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยรายงาน "Short-Term Energy Outlook" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่าการปิดโรงงานผลิตน้ำมันและแก๊สในช่วงฤดูที่พายุเฮอริเคนก่อตัวในอ่าวเม็กซิโกปีนี้ จะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลดลงราว 26 ล้านบาร์เรล และการผลิตแก๊สธรรมชาติลดลง 1.66 แสนล้านลูกบาศก์ฟุต