กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยรายงาน "Short- Term Energy Outlook" โดยกระทรวงพลังงานได้ปรับลดคาดการณ์ผลผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกลง 6.1% เนื่องจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลครั้งรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์แท่นขุดเจาะน้ำมันของบีพีระเบิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา
รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันโดยเฉลี่ยจะลดลง 26,000 บาร์เรล/วัน ในไตรมาส 4 ปีนี้ และลดลง 70,000 บาร์เรล/วันในปีหน้า โดยปริมาณการผลิตที่ลดลง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 0.5 ของการผลิตน้ำมันในสหรัฐนั้น เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศใช้มาตรการห้ามขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่น้ำลึกของอ่าวเม็กซิโกเป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานคาดว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงในช่วงเวลาเดียวกับที่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นนั้น อาจส่งผลให้ดีมานด์เชื้อเพลิงพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 และคาดว่ายอดการนำเข้าน้ำมันของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่เริ่มขยายตัว โดยในไตรมาแรกปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตรา 3% ต่อปี
กระทรวงพลังงานคาดว่า ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) หรือ Light Sweet Crude จะเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยที่ 78.75 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ สูงกว่าระดับเฉลี่ยที่ 61.66 ดอลลาร/บาร์เรลของปี 2552 อยู่ราว 28%
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกสู่ระดับ 1.69 ล้านบาร์เรล/วัน จากการประมาณการในเดือนที่แล้วที่ 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน นอกจากนี้ คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกจะขยายตัว 1.8% สู่ระดับ 85.51 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ส่วนในปีหน้าคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1.9% สู่ระดับ 87.12 ล้านบาร์เรล/วัน
ประธานาธิบดีโอบามาบังคับใช้มาตรการห้ามขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่น้ำลึกของอ่าวเม็กซิโกเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการระงับใบอนุญาตการขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่น้ำลึกครั้งใหม่ หลังจากแท่นขุดเจาะ Deepwater Horizon ของบีพีระเบิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. จนเป็นให้มีคนงานเสียชีวิต 11 คน และให้น้ำมันรั่วลงสู่อ่าวเม็กซิโกจำนวนมาก จนนำไปสู่หายนะด้านสิ่งแวดล้อมครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
ข้อมูลของกระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า ยอดนำเข้าน้ำมันโดยเฉลี่ยของสหรัฐในปี 2552 อยู่ที่ 9.06 ล้านบาร์เรล/วัน
ส่วนความคืบหน้าในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วของบีพีนั้น นายโทนี่ เฮย์เวิร์ด ซีอีโอของบีพี เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ณ วันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา บีพีสามารถดักจับน้ำมันได้ 11,100 บาร์เรลจากบ่อน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่ท้องทะเล ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าวันก่อนหน้านั้น และยืนยันว่า ท่อท่อนใหม่ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรมของบีพีนำมาต่อเข้ากับท่อน้ำมันที่รั่วเพื่อดูดน้ำมันให้ลอยขึ้นไปบนผิวน้ำและให้เรือทำการดักจับน้ำมันนั้น ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถดักจับน้ำมันได้ในปริมาณที่มากขึ้นด้วย