ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก $1.10 หลังข้อมูลชี้เศรษฐกิจโลกแข็งแกร่ง

ข่าวต่างประเทศ Friday June 11, 2010 07:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกและดีมานด์พลังงานมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง หลังจากนานาประเทศรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงของสหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.32 เซนต์ ปิดที่ 2.0328 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนก.ค.ดีดขึ้น 3.08 เซนต์ ปิดที่ 2.0582 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากทั้งจีน สหรัฐ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย โดยเมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 456,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยรวม ร่วงลง 255,000 ราย สู่ระดับ 4.5 ล้านคน

ขณะที่สำนักงานศุลกากรจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนพ.ค.ขยายตัวแข็งแกร่ง 48.5% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 48.3% ซึ่งทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 1.953 หมื่นล้านดอลลาร์ บ่งชี้จีนซึ่งเป็นประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวรวดเร็วสุดในโลก สามารถต้านทานวิกฤตการณ์หนี้สาธารณะในยุโรปได้

สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ภาคเอกชนของออสเตรเลียมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 26,900 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ช่วยหนุนตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงในช่วงไตรมาสแรกของญี่ปุ่น ขยายตัวในอัตรา 5.0% ต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ว่าขยายตัว 4.9% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 4.2%

นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเมื่อนายนายหลี่ เตากุย ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชิงหัว กล่าวว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปยังไม่รุนแรงพอที่จะทำให้เกิดวิกฤตการเงินโลกรอบใหม่ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อดีมานด์การส่งออกสินค้าของจีนในระยะยาว

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานคาดการณ์ของสำนักงานพลังงานสากล (ไอเอีเอ) ที่ระบุว่า ดีมาน์น้ำมันในตลาดโลกปี 2553 จะเพิ่มขึ้น 1.68 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 2% เป็น 86.44 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 84.76 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีที่แล้ว เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ใช้พลังงานรายใหญ่สุดของโลก ได้ช่วยหนุนให้การใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้น โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 60,000 บาร์เรลจากคาดการณ์ในเดือนที่แล้ว

ไออีเอระบุว่า ความต้องการน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นยังคงมาจากตลาดเกิดใหม่มากที่สุด โดยเฉพาะความต้องการจากจีน ซึ่งเป็นผู้ใช้พลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก

นอกจากนี้ ไออีเอยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่แท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทบีพีระเบิดและจมลงจนทำให้น้ำมันปริมาณมหาศาลไหลทะลักลงสู่อ่าวเม็กซิโกว่า อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในส่วนของอุปทานน้ำมัน เนื่องจากอาจมีการควบคุมการขุดเจาะน้ำมันใต้ทะเลให้มีความเข้มงวดมากขึ้นในอนาคต ซึ่งก็จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ