คณะกรรมการตลาดยางแห่งมาเลเซีย คาดการณ์ว่า ผลผลิตยางธรรมชาติในมาเลเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 17% ในปีนี้ เนื่องจากราคายางที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้เกษตรกรเพิ่มปริมาณการกรีดน้ำยาง ซึ่งจะช่วยชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสภาพอากาศแห้งแล้ง
นางซัลมาห์ อาห์หมัด ผู้อำนวยการคณะกรรมการตลาดยางแห่งมาเลเซียกล่าวว่า "สภาพอากาศแห้งแล้งได้ผลกระทบต่อการผลิตยาง แต่คาดว่าผลผลิตโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากราคา" ทั้งนี้ นางซัลมาห์คาดว่าผลผลิตยางจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าที่ทรวงอุตสาหกรรมการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์คาดการณ์ไว้ในเดือนพ.ค.ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 ตัน ส่วนผลผลิตยางในปีที่แล้วอยู่ที่ 856,189 ตัน
นางซัลมาห์ยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมานั้น ราคายางในมาเลเซียได้ดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดแล้ว และคาดว่าจะดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยคาดว่าราคายางเกรด SMR 20 ที่ตลาดมาเลเซียในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 9 ริงกิต/กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังคาดว่ายอดส่งออกยางของมาเลเซียจะพุ่งขึ้น 28% สู่ระดับ 900,000 ตันในปีนี้ด้วย
สัญญายางล่วงหน้าในตลาดโตเกียว (TOCOM) พุ่งขึ้น 12% จากระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อวันที่ 17 พ.ค. เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเชียและยอดผลิตรถยนต็ที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในจีน จะช่วยหนุนความต้องการใช้ยางให้เพิ่มขึ้นด้วย
"ดีมานด์ยางมาเลเซียยังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่ง และแม้ว่าวิกฤตการณ์การเงินในยุโรปจะทำให้ดีมานด์อ่อนตัวลงไปบ้าง แต่ปัจจัยในจีนยังคงแข็งแกร่งกว่าปัจจัยในยุโรป โดยปริมาณการใช้ยางในจีนซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40 ของยอดส่งออกยางของจีนนั้น กำลังขยายตัวในอัตรา 10% ต่อปี" นางซัลมาห์กล่าว
นายกู่ เซียงหัว รองเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของจีน คาดการณ์ว่า ยอดการผลิตยานยนต์ของจีนในปีนี้มีแนวโน้มพุ่งขึ้น 15% สู่ระดับ 15 ล้านคัน
ส่วนยอดขายยานยนต์ของจีนในปีที่แล้วพุ่งขึ้น 46% สู่ระดับ 13.6 ล้านคัน แซงหน้าสหรัฐขึ้นมาเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก