สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ร่วงลง 48 เซนต์ หรือ 0.6% แตะที่ 76.31 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 76.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งเป็นผู้ใช้พลังงานรายใหญ่สุดของโลก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเหนือความคาดหมาย และดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตฟิลาเดลเฟียที่ร่วงลงอย่างหนัก
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 มิ.ย. พุ่งขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 472,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 450,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น เนื่องจากอุตสาหกรรมภาคการผลิต การก่อสร้าง และการศึกษา พากันลดอัตราการจ้างงาน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าจำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วย
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตฟิลาเดลเฟียประจำเดือนพ.ค.ร่วงลงสู่ระดับ 8 จุด จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 21.4 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเขตฟิลาเดลเฟียซึ่งเป็นหนึ่งในเขตอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งที่สุดของสหรัฐ ยังคงอ่อนแอ
นอกจากนี้ สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 11 มิ.ย. พุ่งขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 700,000 บาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นพียง 800,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.2% เหลือเพียง 87.9%