สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าพายุโซนร้อนอเล็กซ์อาจเบี่ยงตัวไปทางทิศเหนือ-ตะวันตกเฉียงเหนือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 61 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 78.25 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.72 - 79.38 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ค.ลดลง 1.89 เซนต์ ปิดที่ 2.0933 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนก.ค.ลดลง 3.02 เซนต์ ปิดที่ 2.1376 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 53 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 77.59 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.06 - 78.66 ดอลลาร์
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานเมื่อวานนี้ว่า พายุอเล็กซ์ มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ-ตะวันตกเฉียงเหนือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติเตือนว่า พายุอเล็กซ์อาจทวีความรุนแรงกลายเป็นพายุเฮอริเคนลูกแรกในมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้ และจะพัดขึ้นสู่พรมแดนระหว่างรัฐเท็กซัสของสหรัฐและประเทศเม็กซิโกในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีนี้
บริษัทบีพีเปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุอเล็กซ์อาจส่งผลให้งานควบคุมการรั่วไหลของน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตาม พลเรือเอก แท็ด อัลเลน แห่งหน่วยยามฝั่งของสหรัฐ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานที่ดูแลเรื่องน้ำมันรั่ว กล่าวว่า พายุอเล็กซ์จะไม่ส่งผลกระทบต่องานกำจัดคราบน้ำมันและการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วของบีพีมากนัก เนื่องจากพายุเคลื่อนตัวค่อนไปทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ ในขณะที่ปฏิบัติการกำจัดคราบน้ำมันอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอ่าวเม็กซิโก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% และอัตราการออมของผู้บริโภคพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 มิ.ย. ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 400,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามตัวเลขจ้างงานประจำเดือนมิ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะลดลง 110,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.7%