สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนส.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่สิงคโปร์ ร่วงลง 45 เซนต์ หรือ 0.6% มาอยู่ที่ระดับ 77.80 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้านี้ จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 78.25 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวในอัตราที่ช้าลง อาจส่งผลให้ดีมานด์พลังงานซบเซาลงด้วย นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการที่พายุโซนร้อนอเล็กซ์เบี่ยงตัวออกจากพื้นที่ผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐคาดการณ์ว่า พายุโซนร้อนอเล็กซ์จะเครื่องตัวข้ามผ่านพื้นที่ตอนใต้ของอ่าวเม็กซิโกและจะเคลื่อนตัวถึงประเทศเม็กซิโกในวันที่ 1 ก.ค.นี้
ขณะที่ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า พายุอเล็กซ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นในวันนี้ ในขณะที่เคลื่อนตัวสู่พรมแดนระหว่างรัฐเท็กซัสของสหรัฐและประเทศเม็กซิโก ส่งผลให้บริษัทที่มีแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งพากันอพยพคนงานออกจากพื้นที่
พายุอเล็กซ์ซึ่งเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมสูงสุดถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมง จากก่อนหน้านี้ที่ 50 ไมล์ต่อชั่วโมง ได้ก่อตัวขึ้นห่างจากพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบราวส์วิลล์ รัฐเท็กซัส ประมาณ 520 ไมล์ และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ-ตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วลม 5 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยคาดว่าพายุลูกนี้จะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนที่มีความเร็วลม 74 ไมล์ต่อชั่วโมงในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่า ความรุนแรงของพายุอเล็กซ์อาจจะไม่รุนแรงถึงขั้นเป็นพายุเฮอริเคนระดับ 3 เหมือนกับที่เจ้าหน้าที่วิตกกังวล
บริษัทบีพี และรอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งเป็นสองผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในกัลฟ์โคสต์ กำลังอพยพคนงานหลายร้อยคนออกจากแท่นขุดเจาะที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกและตอนกลางของอ่าวเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม พลเรือเอก แท็ด อัลเลน แห่งหน่วยยามฝั่งของสหรัฐ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานที่ดูแลเรื่องน้ำมันรั่ว คาดว่า พายุอเล็กซ์จะไม่ส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการดักจับน้ำมันของบีพี
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 มิ.ย. ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 400,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2%