ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดลบ 31 เซนต์ ขณะนักลงทุนวิตกศก.ซบเซากระทบดีมานด์พลังงาน

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 1, 2010 07:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจส่งผลให้ดีมานด์พลังงานหดตัวลงด้วย แม้กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงภาคเอกชนที่เพิ่มการจ้างงานน้อยกว่าคาด ยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการเทขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 31 เซนต์ ปิดที่ 75.63 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 75.65 - 74.80 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ค.ลดลง 3.96 เซนต์ ปิดที่ 1.9817 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนก.ค.ลดลง 11.14 เซนต์ ปิดที่ 2.0606 ดอลลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 75.01 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและวิกฤตการณ์การเงินในยุโรปยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ โดย ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วประเทศเพิ่มการจ้างงาน 13,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 60,000 ตำแหน่ง และน้อยกว่าเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 57,000 ตำแหน่ง

การรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP Employer Services มีขึ้นก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนมิ.ย.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.จะร่วง 110,000 ตำแหน่ง เนื่องจากการจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐในส่วนของงานสำมะโนประชากรนั้น มีแนวโน้มปรับตัวลดลง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะอยู่ที่ระดับ 9.7%

ขณะที่ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในเขตชิคาโก ร่วงลงสู่ระดับ 59.1 จุดในเดือนมิ.ย. จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 59.7 จุด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการซื้อขายและไม่มั่นใจในแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางธุรกิจเขตมิดเวสต์ขยายตัวมากเกินคาดในเดือนมิ.ย.ก็ตาม

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัว หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐ ปรับลดการประมาณการดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของจีนว่า ขยับตัวขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน จากเดิมที่ประเมินว่าขยายตัว 1.7%

นอกจากนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ยังรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 52.9 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 62.8 จุด จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 62.7 จุด

ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่าภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจส่งผลให้ดีมานด์พลังงานหดตัวลงด้วย แม้สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงาน (EIA) ในสังกัดกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 25 มิ.ย. ร่วงลง 2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 363.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล สู่ระดับ 218.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ พุ่งขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องภาวะหดตัวของดีมานด์พลังงานแม้กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงในรอบสัปดาห์ที่แล้วก็เพราะตัวเลขดังกล่าวลดลงน้อยกว่าที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานไว้ก่อนหน้านี้

โดย API รายงานเมื่อวันอังคารว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 25 มิ.ย. ร่วงลง 3.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 908,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ