สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งจะเปิดเผยหลังจากตลาดปิดทำการ และจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) เดือนส.ค.ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 74.95 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 74.52 - 76.43 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนส.ค.ลดลง 3.44 เซนต์ ปิดที่ 1.9913 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนส.ค.ลดลง 4.20 เซนต์ ปิดที่ 2.0280 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 74.37 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 73.85 - 75.72 ดอลลาร์
การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบและลังเลที่จะเข้าทำโพสิชั่นใหม่ๆ เพราะดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้นด้วย นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นยังทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเอกชน
หลังจากตลาดปิดทำการแล้ว บริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลกรายงานว่า รายได้สุทธิประจำไตรมาส 2 มีอยู่ทั้งสิ้น 136 ล้านดอลลาร์ หรือ 13 เซนต์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้วที่บริษัทขาดทุน 454 ล้านดอลลาร์ หรือ 47 เซนต์ต่อหุ้น ส่วนตัวเลขกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น 22% สู่ระดับ 5.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ อัลโค อิงค์ ยังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2553 เนื่องจากดีมานด์การใช้อลูมิเนียมมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเป็น 12% จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 10%
ส่วนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีกำหนดจะเปิดเผยผลระกอบการในสัปดาห์นี้นั้น รวมถึงเจพีมอร์แกน เชสแอนด์โค, แบงค์ ออฟ อเมริกา, เจนเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) และอินเทล คอร์ป
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) จะเปิดเผยรายงานคาดการณ์ความต้องการน้ำมันรายเดือนในวันอังคารนี้ ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะเปิดเผยรายงานคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในวันพฤหัสบดี
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมิ.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันมีแนวโน้มลดลง 0.1%