สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเหนือระดับ 77 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) เนื่องจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัท อัลโค อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก และบริษัท ซีเอสเอ็กซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างทางรถไฟรายใหญ่ของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและดีมานด์พลังงานทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่คาดการณ์ว่า ดีมานด์น้ำมันดิบทั่วโลกในปีหน้าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนากำลังขยายตัวขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.15 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.15 - 76.87 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 5.61 เซนต์ ปิดที่ 2.0474 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 5.41 เซนต์ ปิดที่ 2.0821 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะช่วยหนุนดีมานด์พลังงานพุ่งขึ้นด้วย หลังจากอัลโค อิงค์ เปิดเผยว่า รายได้สุทธิประจำไตรมาส 2 มีอยู่ทั้งสิ้น 136 ล้านดอลลาร์ หรือ 13 เซนต์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้วที่บริษัทขาดทุน 454 ล้านดอลลาร์ หรือ 47 เซนต์ต่อหุ้น ส่วนตัวเลขกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น 22% สู่ระดับ 5.2 พันล้านดอลลาร์ จากไตรมาสแรกที่ระดับ 4.24 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดขายอลูมิเนียมที่ใช้ในรถยนต์ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ และอุตสาหกรรมก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ซีเอสเอ็กซ์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างทางรถไฟรายใหญ่ของสหรัฐ รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2 และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2553 ด้วย
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังได้ปัจจัยบวกหลังจาก IEA คาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 1.6% หรือ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 87.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนาขยายตัวขึ้น ขณะเดียวกัน IEA ได้คงคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปีนี้ไว้ที่ 86.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันมีแนวโน้มลดลง 0.1%
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมิ.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย.