สำนักงานสถิติแห่งชาติของมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซียผลิตยางธรรมชาติได้มากขึ้น 9.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 65,254 ตันในเดือนพฤษภาคม
ส่วนยอดส่งออกยางธรรมชาติขยายตัว 35.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 64,232 ตันในเดือนพฤษภาคม โดยตลาดส่งออกหลักประกอบด้วยจีน เยอรมนี เกาหลี สหรัฐอเมริกา และโปรตุเกส ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 33%, 13.3%, 7.6%, 5.5% และ 3.3% จากการส่งออกทั้งหมดตามลำดับ
ด้านยอดนำเข้ายางธรรมชาติลดลง 15.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 49,734 ตันในเดือนพฤษภาคม โดยน้ำยางข้นยังคงเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าหลักซึ่งมีสัดส่วน 57.5% ของการนำเข้าทั้งหมด โดยส่วนมากมาเลเซียนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางจากไทย พม่า เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 74.7%, 4.9%, 4%, 4% และ 3.3% จากการนำเข้าทั้งหมดตามลำดับ
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ผลผลิตยางธรรมชาติขยายตัว 19.7% ขณะที่ยอดส่งออกลดลง 6.2% ส่วนยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.8%
การใช้ยางธรรมชาติในประเทศลดลง 1.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 40,562 ตัน โดยอุตสาหกรรมถุงมือยางยังคงเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ใช้ยางมากที่สุด
ด้านสต็อกยางธรรมชาติเพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 17,782 ตันในเดือนพฤษภาคม แต่ลดลง 12.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยประมาณ 88.7% ของสต็อกยางธรรมชาติอยู่ในความครอบครองของบริษัทแปรรูปยางธรรมชาติ สำนักข่าวซินหัวรายงาน