ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐถดถอย ฉุดน้ำมันดิบปิดลบ 61 เซนต์

ข่าวต่างประเทศ Saturday July 17, 2010 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ของสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก และความผิดหวังที่มีต่อรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ของธนาคารรายใหญ่ รวมถึงซิตี้กรุ๊ป

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 61 เซนต์ ปิดที่ 76.01 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนส.ค.ลดลง 0.7 เซนต์ ปิดที่ 2.0113 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนส.ค.ลดลง 1.21 เซนต์ ปิดที่ 2.0486 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 75.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ของสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ด้วย โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นในเดือนก.ค. ร่วงลงสู่ระดับ 66.5 จุด จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 76.0 จุด ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 74.5 จุด เนื่องจากผู้บริโภคมีความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลง

ผู้บริโภคในสหรัฐวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งภาวะความเชื่อมั่นที่ถดถอยเช่นนี้อาจทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายและยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังถูกกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของจีนขยายตัวในอัตรา 10.3% ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 11.9% ส่วนจีดีพีในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 11.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อ ลดลง 0.1% ในเดือนมิ.ย. ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวจากระดับของเดือนพ.ค. เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงาน อาหาร และค่าธรรมเนียมสายการบิน ปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังต่อผลประกอบการของซิตี้กรุ๊ป และแบงค์ ออฟ อเมริกา โดยเมื่อวานนี้ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยกำไรไตรมาส 2 ลดลง 38% มาอยู่ที่ระดับ 2.73 พันล้านดอลลาร์ หรือ 9 เซนต์ต่อหุ้น ขณะที่แบงค์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยกำไรไตรมาส 2 ลดลง 75% จากไตรมาสแรก มาอยู่ที่ระดับ 1.2 พันล้านดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ