ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.21 ได้แรงหนุนจากดอลล์อ่อน-คาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบร่วง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 4, 2010 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 82 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะร่วงลง ซึ่งบ่งชี้ว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งแม้มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอออกมาเป็นระยะก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) เดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 82.55 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 82.55 - 82.40 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 4.62 เซนต์ ปิดที่ 2.2000 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 2.5 เซนต์ ปิดที่ 2.1935 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.86 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรสัญญาน้ำมันดิบต่อเนื่องจากวันจันทร์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และหลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ค.จะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 700,000 บาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.6% โดยกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงคึกคัก แม้ทางการสหรัฐรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอก็ตาม โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ทรงตัว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่อัตราการออมส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.4% ของรายได้หลังหักภาษี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี โดยตัวเลขการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลงในขณะที่อัตราการออมพุ่งขึ้นเช่นนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างล่าช้า

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย. ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 75.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2544

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในภาคเอกชนร่วงลง 0.6% จากเดือนพ.ค.มาอยู่ที่ 5.276 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยยอดการก่อสร้างที่อยู่อาศัยลดลง 0.8% หลังมาตรการลดหย่อนภาษีเงินกู้สำหรับผู้ซื้อบ้านหมดอายุลงในสิ้นเดือนเม.ย. ส่วนการใช้จ่ายสำหรับโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือนมิ.ย. ทำสถิติร่วงลง 15 เดือนติดต่อกัน นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนก.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.จะลดลง 65,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ค.จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.6% จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 9.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ