สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ค. ร่วงลง 2.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 358 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ดังกล่าวยังสูงกว่าระดับของปีที่แล้วอยู่ประมาณ 2.4%
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล สู่ระดับ 223 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 870,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นที่รวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและฮีทติ้งออยล์ เพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 169.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.16 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่รัฐบาลสหรัฐประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปีพ.ศ. 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน