สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ดีดตัวขึ้น 5 เซนต์ แตะที่ 80.30 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ (11 ส.ค.) จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 80.25 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 วัน หลังจากทางการจีนเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวน้อยลง และกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพการผลิตที่ลดลงในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจเป็นไปอย่างล่าช้า
ทั้งนี้ ประสิทธิภาพการผลิตในสหรัฐร่วงลง 0.9 % ต่อปีในไตรมาสสองของปีนี้ หลังจากพุ่งขึ้น 3.9 % ต่อปีในไตรมาสแรก ส่วนต้นทุนแรงงานต่อหน่วยขยับขึ้นเพียง 0.2 % ต่อปีในไตรมาสสอง หลังจากดิ่งลง 3.7 % ต่อปีในไตรมาสแรก
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ของจีนขยายตัว 13.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ลดลง 0.3% จากเดือนมิ.ย. ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัว 17% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ลดลง 0.6% จากเดือนม.ค.-ม.ย.
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.4%
หลังจากตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการเมื่อวานนี้ (10 ส.ค.) การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 6 ส.ค. ร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.5% แตะระดับ 84.2%