สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวแข็งแกร่งในเดือนก.ค. ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ และเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานจะฟื้นตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 75.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 75.01 - 76.63 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.71 เซนต์ ปิดที่ 2.0259 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 2.89 เซนต์ ปิดที่ 1.9532 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ รวมถึงผลผลิตในโรงงาน เหมืองแร่ และผลผลิตด้านสาธารณูปโภค ขยายตัวขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงเป็นปัจจัยหลักในการหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวขึ้น
ผลผลิตในโรงงานขยายตัว 1.1% ในเดือนก.ค. เนื่องจากโรงงานผลิตรถยนต์ในสหรัฐเริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติ หลังจากปิดโรงงานชั่วคราวเพื่อซ่อมบำรุงในช่วงฤดูร้อน โดยการขยายตัวของผลผลิตในโรงงานมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมในเดือนก.ค.
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ส่วนดัชนีพีพีไอพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 เดือน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่เดือนก.ค.ขยายตัวขึ้น 1.7% สู่ระดับ 546,000 ยูนิตต่อปี โดยตัวเลขการสร้างบ้านในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ขยายตัวขึ้น 30.5% ขณะที่เขตมิดเวสต์ขยายตัวขึ้น 10.7%
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 1.0 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 100,000 บาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.7%