สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าดีมานด์ยังคงซบเซาแม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.46% มาปิดที่ 75.42 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 73.83 - 75.74 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ย.ลดลง 0.1 เซนต์ ปิดที่ 2.0249 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.8 เซนต์ ปิดที่ 1.9612 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 76.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบอันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า ดีมานด์พลังงานในสหรัฐอาจชะลอตัวลงแม้เศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวก็ตาม โดยเมื่อวานนี้สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ส.ค.ลดลง 800,000 บาร์เรล แตะระดับ 354.2 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 1.0 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 174.2 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 39,000 บาร์เรล แตะระดับ 223.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 100,000 บาร์เรล
ก่อนหน้านี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้น 5.87 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.03 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.0 ล้านบาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากปรับตัวขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ภายหลังจากทางการสหรัฐระบุว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ รวมถึงผลผลิตในโรงงาน เหมืองแร่ และผลผลิตด้านสาธารณูปโภค ขยายตัวขึ้น 1.0% ในเดือนก.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงเป็นปัจจัยหลักในการหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวขึ้น
ผลผลิตในโรงงานขยายตัว 1.1% ในเดือนก.ค. เนื่องจากโรงงานผลิตรถยนต์ในสหรัฐเริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติ หลังจากปิดโรงงานชั่วคราวเพื่อซ่อมบำรุงในช่วงฤดูร้อน โดยการขยายตัวของผลผลิตในโรงงานมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมในเดือนก.ค.