สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ส.ค. พุ่งขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล หรือ 1.2% สู่ระดับ 358.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.27 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 225.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,00 บาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.1 บาร์เรล สู่ 358.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.76 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 176 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.3% เหลือเพียง 87.7%
สต็อกน้ำมันข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่รัฐบาลสหรัฐประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปีพ.ศ. 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย สำนักข่าวซินหัวรายงาน