ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: แรงซื้อหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 89 เซนต์ แต่ตลาดยังวิตกดีมานด์พลังงานหดตัว

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 26, 2010 07:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากสัญญาร่วงลงอย่างหนักในช่วงเช้า เพราะถูกกดดันจากรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด และยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ ปิดที่ 72.52 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 70.76 - 72.87 ดอลลาร์ โดยสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงไปแล้ว 11.5% จากระดับ 82 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนนี้

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 3.49 เซนต์ ปิดที่ 1.9706 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.45 เซนต์ ปิดที่ 1.8639 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปิดบวกเพราะได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อเก็งกำไรที่นักลงทุนส่งเข้ามาในช่วงท้าย อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมยังคงซบเซา เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐ โดยในระหว่างวันนั้น สัญญาน้ำมันดิบดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 70.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ส.ค. พุ่งขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล หรือ 1.2% สู่ระดับ 358.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.27 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 225.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,00 บาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.1 บาร์เรล สู่ 358.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.76 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 176 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.3% เหลือเพียง 87.7%

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดัน หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.ร่วงลง 12.4% มาอยู่ที่ระดับ 276,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์เริ่มรวบรวมข้อมูลยอดการขายบ้านในปี 2506 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 330,000 ยูนิตต่อปี จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 315,000 ยูนิตต่อปี

ส่วนราคากลางของบ้านใหม่ในเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 204,000 ดอลลาร์ ซึ่งลดลง 4.8% จากปีที่แล้ว หรือลดลง 6% จากเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้มีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนก.ค. เพราะได้แรงหนุนจากยอดสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 75.9% อย่างไรก็ตาม ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.8%

นักวิเคราะห์กล่าวว่า รายงานสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นเกินคาดสะท้อนให้เห็นว่า ดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย โดยเฉพาะการใช้จ่ายในสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ