สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง และหลังจากทางการสหรัฐรายงานว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 84 เซนต์ ปิดที่ 73.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวแคบๆในกรอบ 73.36 - 73.32 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.86 เซนต์ ปิดที่ 2.0092 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 4.46 เซนต์ ปิดที่ 1.9085 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมัน NYMEX ดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากผลสำรวจของสถาบัน GfK ของเยอรมนีเปิดเผยว่า ผู้บริโภคในเยอรมนียังคงมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจประเทศ แม้ว่าจะมีความวิตกกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกก็ตาม โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกันยายนขยายตัวสู่ระดับ 4.1 จุด จากระดับ 4.0 จุดในเดือนสิงหาคม
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ส.ค. ร่วงลง 31,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 473,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 490,000 ราย และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 3,250 ราย สู่ระดับ 486,750 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าจำนวนคนว่างงานในสหรัฐยังอยู่ในระดับที่สูงมาก เนื่องจากกลุ่มนายจ้างยังคงลดการจ้างงานในช่วงที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ จำนวนคนว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยนักลงทุนจับตาดูรายงานการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจีดีพีไตรมาส 2 จะขยายตัวต่ำกว่าระดับ 2%
สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ส.ค. พุ่งขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล หรือ 1.2% สู่ระดับ 358.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 800,000 บาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.27 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 225.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,00 บาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.1 บาร์เรล สู่ 358.3 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.76 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 176 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.0 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.3% เหลือเพียง 87.7%