ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก $1.81 ขานรับถ้อยแถลงเบอร์นันเก้-จีดีพีสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Saturday August 28, 2010 07:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวตามตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เพราะได้แรงหนุนจากเบน เบอร์นันเก้ ประธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันว่าเฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการฟื้นฟูหากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอ่อนแอ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่บ่งชี้ว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.81 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 75.59 -72.04 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.51 เซนต์ ปิดที่ 2.0443 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.94 เซนต์ ปิดที่ 1.9479 ดอลลาร์ต่อแกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นักลงทุนขานรับเบอร์นันเก้ที่กล่าวยืนยันในที่ประชุมประจำปีของเฟดซึ่งจัดขึ้นที่เมืองแจ๊คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ว่า เฟดพร้อมที่จะใช้นโยบายผ่อนปรนด้านการเงินเพิ่มเติม รวมถึงการใช้มาตรการพิเศษ (unconventional measures) เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนในตลาดสินเชื่อ หากคณะกรรมการเฟดพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ เบอร์นันเก้เชื่อมั่นว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะสูงขึ้นในปี 2554

เบอร์นันเก้ระบุว่า มาตรการพิเศษของเฟดอาจครอบคลุมถึงการเปิดโครงการซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ในปริมาณมาก โดยเฟดเคยนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ในช่วงที่สหรัฐเผชิญวิกฤตการเงินและภาวะเศรษฐกิจถดถอย เพื่อเป็นช่องทางในการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงินได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปี 2552 จนถึงต้นปี 2553 ที่เฟดได้เข้าซื้อตราสาร MBS และตราสารหนี้ประเภทอื่นๆมูลค่ามหาศาลเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเพิ่มปริมาณการไหลเวียนของเม็ดเงินในระบบ

แถลงการณ์ของเบอร์นันเก้มีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ปี 2553 ว่า ขยายตัว 1.6% ซึ่งน้อยกว่าที่ประเมินไว้ครั้งก่อนว่าขยายตัว 2.4% และเป็นสถิติที่ขยายตัวรายไตรมาสที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม จีดีพีไตรมาส 2 ที่ผ่านการทบทวนครั้งล่าสุดนี้ ขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.4%

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า สัญญาน้ำมันดิบจะเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัดและอาจชะลอตัวลง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราว่างงานในสหรัฐ และการที่ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัวได้น้อยกว่า 2% ก็บ่งชี้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนในภาคเอกชนของสหรัฐยังคงอ่อนแอ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ