สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) แม้ว่าสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ดีเกินคาดก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 42 เซนต์ ปิดที่ 74.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนต.ค.ขยับลง 0.5 เซนต์ ปิดที่ 2.0573 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ลบ 0.21 เซนต์ ปิดที่ 1.9195 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 76.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payroll) ปรับตัวลดลง 54,000 อัตราในเดือนสิงหาคม น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะร่วงลงถึง 110,000 อัตรา ขณะที่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนก็ปรับตัวสูงขึ้น 67,000 อัตราในเดือนสิงหาคม จากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 41,000 อัตรา
นอกจากนั้นตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนกรกฎาคมที่เคยรายงานไปว่าลดลง 131,000 อัตรา ก็ถูกปรับเป็นลดลงเพียง 54,000 อัตรา
แม้ข้อมูลจ้างงานจะออกมาดีเกินคาด แต่ราคาน้ำมันก็ยังปรับตัวลดลง ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงคือ การที่คาเมรอน ฮันโนเวอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน รายงานว่าสต็อกน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 27 ปี รวมถึงการที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมทางธุรกิจนอกภาคการผลิต (NMI) ซึ่งเป็นตัววัดการทำกิจกรรมในภาคบริการ ขยายตัวช้าลงแตะ 51.5 จุดในเดือนสิงหาคม จากระดับ 54.3 จุดในเดือนกรกฎาคม
นอกจากนั้นเฮอริเคนเอิร์ลที่อ่อนกำลังลงยังทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลที่ว่าพายุอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการกลั่นน้ำมันบริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ