สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลโปรตุเกสประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตร นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนต.ค. (New York Mercantile Exchange) เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ ปิดที่ 74.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.74 เซนต์ ปิดที่ 2.0817 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.65 เซนต์ ปิดที่ 1.9394 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 78.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์ และจากข่าวที่ว่ารัฐบาลโปรตุเกสประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโอบามาประกาศแผนการลงทุนด้านสาธารณูปโภคมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซี่งครอบคลุมถึงการขยายและซ่อมแซมถนน ทางรถไฟ และรันเวย์ โดยมีเป้าหมายหลักคือการกระตุ้นเศรษฐกิจและการสร้างงาน และเพื่อปกป้องฐานเสียงของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งสภาคองเกรสซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 2 พ.ย.นี้
หุ้นกลุ่มพลังงานและแก๊สในตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นหลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทบีพี ขณะที่บีพีได้ออกมายอมรับความผิดพลาดในเหตุการณ์แท่นขุดเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon ระเบิดในอ่าวเม็กซิโก
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลงเพียง 600,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 900,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันคาดว่าจะดลง 0.4 %
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค.