สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าการปิดท่อส่งน้ำมันที่เชื่อต่อระหว่างแคนาดาและเขตมิดเวสต์ของสหรัฐจะทำให้สต็อกน้ำมันดิบลดลง นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 77.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.83 เซนต์ ปิดที่ 2.1227 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1 เซนต์ สู่ระดับ 1.9806 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 87 เซนต์ ปิดที่ 79.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรสัญญาน้ำมันดิบ หลังจากมีรายงานว่า อส่งน้ำมัน Line 6A ของบริษัทเอ็นบริดจ์ที่มีกำลังการส่ง 670,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างโรงงานผลิตในแคนาดาไปยังโรงกลั่นในเขตมิดเวสต์ยังคงปิดทำการจนถึงขณะนี้ เนื่องจากพบรอยรั่วซึม และยังไม่มีกำหนดว่าจะสามารถเปิดทำการได้เมื่อใด
นักวิเคราะห์กล่าวว่าท่อส่งน้ำมันเส้นนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการส่งน้ำมันไปยังเมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา และระยะเวลาของการปิดจะมีความสำคัญต่อระดับสต็อกน้ำมันที่ศูนย์กลางการกำหนดราคาน้ำมันเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มิเดียท (WTI) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนี้
ทั้งนี้ แคนาดาถือเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่สุดของสหรัฐ และท่อส่งน้ำมัน Line 6A ถือเป็นท่อส่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทเอ็นบริดจ์ จึงทำให้ข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันแห่งนี้มีอิทธิพลต่อการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของจีน ขยายตัว 13.9% จากเดือนก.ค.ที่ขยายตัว 13.4% ขณะที่ยอดการเข้าน้ำมันดิบ และสินแร่เหล็กของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวของพายุเฮอริเคน "อิกอร์" ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวานนี้ ขณะที่ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติคาดว่าพายุลูกนี้อาจทวีกำลังจนกลายเป็นพายุระดับ 4 ที่มีขนาดใหญ่และเป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม คาดว่าพายุเฮอริเคนอิกอร์จะมุ่งหน้าสู่เบอร์มิวดาในช่วง 5 วันข้างหน้า ซึ่งนับว่าอยู่ห่างจากแหล่งผลิตน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก