สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนต.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ร่วงลง 70 เซนต์ หรือ 0.9% มาอยู่ที่ระดับ 76.10 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อเวลา 12.41 น.ตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ (15 ก.ย.) จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 76.80 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และบริษัทเอ็นบริดจ์เตรียมเปิดท่อส่งน้ำมันภายในสัปดาห์นี้
API รายงานว่าสต็อน้ำมันดิบในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ย.พุ่งขึ้น 3.33 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 362 ล้านบาร์เรล ขณะที่ สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 963,000 บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากโฆษกของบริษัทเอ็นบริดจ์ อิงค์ ออกแถลงการณ์ว่า การซ่อมแซมรอยรั่วซึมที่ท่อส่งน้ำมัน Line 6A ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างโรงงานผลิตในแคนาดาไปยังโรงกลั่นในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว และคาดว่าจะสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้งในไม่ช้านี้ โดยท่อน้ำมันเส้นนี้มีกำลังการส่ง 670,000 บาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ เอ็นบริดจ์เปิดเผยว่า ท่อส่งน้ำมัน Line 10 ของบริษัทได้เริ่มลำเลียงน้ำมันในอัตรา 70,000 บาร์เรล/วันจากเมืองออนทาริโอของแคนาดาไปยังรัฐนิวยอร์กของสหรัฐ หลังจากเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีรอยรั่วซึม
ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ทะยานขึ้นจากข่าว่าเอ็นบริดจ์ประกาศปิดท่อส่งน้ำมัน Line 6A เนื่องจากท่อส่งน้ำมันเส้นนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการลำเลียงน้ำมันไปยังเมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา และระยะเวลาของการปิดจะมีความสำคัญต่อระดับสต็อกน้ำมันที่ศูนย์กลางการกำหนดราคาน้ำมันเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มิเดียท (WTI) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 400,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.5%