ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.20 หลังดอลล์อ่อน-ตลาดหุ้นทะยาน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday September 21, 2010 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงได้กระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายให้คึกคักขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะลดลงหลังจากมีการปิดท่อส่งน้ำมันจากแคนาดาไปยังเขตมิดเวสต์ของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) เดือนต.ค.ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 4.02 เซนต์ ปิดที่ 2.1394 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 3.04 เซนต์ ปิดที่ 1.9496 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมัน NYMEX เป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี S&P ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นเหนือแนวต้านทางเทคนิคที่ระดับ 1,131 จุด ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันอังคารที่ 21 ก.ย.ตามเวลาประเทศไทย

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าในการประชุมครั้งนี้ นอกเหนือจากการตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% แล้ว เฟดอาจจะเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเฟดจะยังคงพยุงเม็ดเงินในพอร์ทฟอลิโอของเฟด หรือ System Open Market Account (SOMA) ให้อยู่ที่ระดับ 2.054 ล้านล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 17 ก.ย.ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล หลังจากบริษัทเอ็นบริดจ์ของแคนาดาปิดท่อส่งมัน Line 6A ที่มีกำลังการส่ง 670,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างโรงงานผลิตในแคนาดาไปยังโรงกลั่นในเขตมิดเวสต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 100,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะลดลง 0.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ