สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ อ่อนตัวลง 3 เซนต์ แตะระดับ 74.74 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อเวลา 10.40 น.ตามเวลาสิงคโปร์ในวันนี้ (23 ก.ย.) จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 74.71 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 17 ก.ย.เพิ่มขึ้น 970,000 บาร์เรล สู่ระดับ 358.34 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 347,000 บาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.59 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 226.06 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 100,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 87.8% สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 0.6%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นหลังจากบริษัทเอ็นบริดจ์ของแคนาดาปิดท่อส่งมัน Line 6A ที่มีกำลังการส่ง 670,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างโรงงานผลิตในแคนาดาไปยังโรงกลั่นในเขตมิดเวสต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โดยก่อนหน้านี้ข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันของเอ็นบริดจ์ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาน้ำมันดิบติดต่อกันหลายวัน เนื่องจากท่อส่งน้ำมันเส้นนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการส่งน้ำมันไปยังเมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา และระยะเวลาของการปิดจะมีความสำคัญต่อระดับสต็อกน้ำมันที่ศูนย์กลางการกำหนดราคาน้ำมันเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มิเดียท (WTI) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนี้ด้วย