ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวไร้ทิศทางในวันนี้ (29 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 523.45 จุด เพิ่มขึ้น 0.26 จุด หรือ +0.05%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 7,572.23 จุด ลดลง 1.53 จุด หรือ -0.02% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดที่ 22,377.17 จุด เพิ่มขึ้น 105.50 จุด หรือ +0.47%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ลดลง 0.4% นำโดยหุ้นวอลโว่ คาร์ส (Volvo Cars) ซึ่งรายงานผลกำไรไตรมาสแรกลดลงอย่างมาก และประกาศระงับคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการทั้งปี นอกจากนี้ วอลโว่ยังเปิดเผยแผนลดต้นทุน 1.8 หมื่นล้านโครนาสวีเดน (1.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
หุ้นปอร์เช่ (Porsche) ร่วง 7.4% หลังปรับลดคาดการณ์ยอดขายและกำไร โดยให้เหตุผลว่าถูกกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ
ในกลุ่มธนาคาร หุ้นเอชเอสบีซี (HSBC) พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ แม้ว่ารายได้และกำไรลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนหุ้นดอยซ์แบงก์ (Deutsche Bank) พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากเผยผลกำไรที่สูงกว่าคาด
หุ้นลุฟต์ฮันซา (Lufthansa) ร่วง 1.6% หลังเตือนว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นและความต้องการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกอ่อนแอลง, หุ้นอาดิดาส (Adidas) บวกหลังรายงานกำไรไตรมาสแรกพุ่งขึ้น 155% และระบุว่าจะขึ้นราคาสินค้าในสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้ภาษีนำเข้า และหุ้นบีพี (BP) ร่วงลง หลังรายงานผลกำไรต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากราคาน้ำมันลดลงและบริษัทกำลังดำเนินการปรับกลยุทธ์ต่อเนื่อง