(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 3.38 จุด รับผลประกอบการแบงก์ใหญ่

ข่าวต่างประเทศ Monday July 15, 2013 06:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (12 ก.ค.) โดยดาวโจนส์ และดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ เพราะได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของสองธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง เจ.พี. มอร์แกน และ เวลส์ ฟาร์โก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 3.38 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 15,464.30 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5.17 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 1,680.19 จุด ดัชนี Nasdaq บวก 21.78 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 3,600.08 จุด

ดัชนีหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยดาวโจนส์และ S&P 500 ทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของปีนี้ เมื่อดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 2.2% และ S&P 500 บวก 3.0% ขณะที่ Nasdaq พุ่งขึ้น 3.5%

เจ.พี. มอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ รายงานผลกำไรสุทธิที่ 6.5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในไตรมาส 2/2556 ซึ่งเพิ่มขึ้น 31% จาก 5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2/2555 ขณะที่รายได้สุทธิรวมพุ่งขึ้น 14% จากปีก่อน แตะ 2.52 หมื่นล้านดอลลาร์

โดยผลประกอบการของเจ.พี. มอร์แกนออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ได้ประเมินไว้ว่ากำไรจะอยู่ที่ 1.44 ดอลลาร์/หุ้น จากรายได้ 2.497 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค รายงานผลกำไรสุทธิที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 98 เซนต์ต่อหุ้นสามัญปรับลด จากรายได้ 2.118 หมื่นล้านดอลลาร์

นักลงทุนหันไปจับตาธนาคารรายใหญ่อีก 4 แห่งของสหรัฐ ได้แก่ ซิตี้กรุ๊ป, โกลด์แมน แซคส์, แบงก์ ออฟ อเมริกา และมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งมีกำหนดรายงานงบการเงินในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ หุ้นสหรัฐเดินหน้าต่อจากที่ทะยานขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งทำให้ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันพุธ ที่ระบุว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสหรัฐ

โจเซฟ ซี. เกรโค กรรมการผู้จัดการฝ่ายขายที่เมอริเดียน อีควิตี้ พาร์ทเนอร์ เชื่อว่าตลาดหุ้นจะยังคงได้รับแรงหนุนในระยะใกล้ จากการที่เฟดได้ยืนยันคำมั่นที่มีต่อตลาดพันธบัตร โดยเขากล่าวกับซินหัวว่า ก่อนที่เราจะได้ฟังถ้อยแถลงจากเฟดอีกครั้งในเดือนก.ย. ตลาดน่าจะยังสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้อีกในเดือนหน้า หรือสองเดือนเป็นอย่างน้อย

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้น ราคาขายส่งพุ่งขึ้นในเดือนมิ.ย. จากราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวสูง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สำหรับสินค้าสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมิ.ย.

ส่วนราคาขายส่งพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมภาคอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย.

ขณะเดียวกันผลสำรวจที่จัดทำร่วมกันโดยธอมสัน รอยเตอร์ และมหาวิทยาลัยมิชิแกน แสดงให้เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ค. ขยับลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 83.9 จาก 84.1 ในเดือนก่อนหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ