หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 49 จุด หรือ 0.3% ที่ระดับ 15,497 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 5 จุด 0.3% แตะที่ 1,684 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 30 จุด หรือ 0.8% แตะที่ 3,581 จุด
หุ้นกูเกิลปรับตัวลง 3.1% หลังรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อันเนื่องมาจากรายได้จากโฆษณาจากการสืบค้นข้อมูลลดลง
หุ้นไมโครซอฟท์ลดลง 9.2% ทำสถิติปรับตัวลงสูงที่สุดในบรรดาหุ้นบริษัทที่คำนวณในดัชนีดาวโจนส์ หลังเปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากยอดขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ลดลง รวมทั้งยอดขายแท็บเล็ตที่น่าผิดหวัง
หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 4.5% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และยังบ่งชี้ถึงการขยายตัวของรายได้ในอนาคต
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดให้ความสำคัญกับผลประกอบการของกูเกิลและไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่มากกว่าถ้อยแถลงต่อรัฐสภาสหรัฐของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เฟดไม่ได้กำหนดกรอบเวลาสำหรับการเริ่มปรับลดขนาดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ