ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดลบ หลังจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด

ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 54.91 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 15,487.33 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.20 จุด หรือ 0.25% แตะที่ 1,681.74 จุด ดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 6.73 จุด หรือ 0.19% แตะที่ 3,586.33 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 343,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 340,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงผันผวน

ข้อมูลด้านแรงงานครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังเผชิญกับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีและการลดงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งฉุดรั้งอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

อย่างไรก็ตลาด ตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.3% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์สินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร

หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ดีดตัวขึ้น 0.96% หลังจากจีเอ็มเปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปีนี้ อยู่ที่ 3.91 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ระดับ 3.76 หมื่นล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดขายรถปิคอัพในอเมริกาเหนือ ขณะที่กำไรในจีนก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน

หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 26% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายไดเพิ่มขึ้น 53% แตะที่ 1.81 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.62 พันล้านดอลลาร์

หุ้นวีซา อิงค์ พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิรายไตรมาสอยู่ที่ 1.23 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.88 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ซึ่งบริษัทขาดทุน 1.84 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.74 ดอลลาร์ต่อหุ้น