ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,520.59 จุด ลดลง 1.38 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,685.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.63 จุด หรือ +0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,616.47 จุด เพิ่มขึ้น 17.33 จุด หรือ +0.48%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 12.2% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2549 หรือในรอบกว่า 7 ปี บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ต้นทุนการกู้ยืมที่อยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ อุปทานที่ขาดแคลน และตลาดแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้น และหนุนให้ราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ มูลค่าบ้านที่เพิ่มขึ้นยังได้ส่งเสริมการเงินภาคครัวเรือน ซึ่งอาจกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจสหรัฐ
แต่ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเดือนก.ค. จากระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี เนื่องจากมุมมองของชาวอเมริกันที่มีต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงานในประเทศปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งจัดทำดดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ลดลงสู่ระดับ 80.3 ในเดือนก.ค. จากระดับ 82.1 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีเดือนก.ค.ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 81.3-81.5
นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วัน โดยได้เริ่มในอังคารวันที่ 30 ก.ค.และจะประกาศมติการประชุมในวันพุธที่ 31 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเช้าวันพฤหัสบดีที่ 1 ส.ค.ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนรอดูสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดจะเริ่มชะลอมาตรการกระตุ้นทางการเงินเมื่อใด
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยประมาณการครั้งแรกผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 2/2556 ในวันพุธ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1.1% ในไตรมาสดังกล่าว
ส่วนในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานจะรายงานข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 รายในเดือนนี้ ขณะที่ประเมินว่าอัตราว่างงานในเดือนก.ค.จะลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 7.5% จาก 7.6% ในเดือนมิ.ย.
หุ้นไฟเซอร์ในกลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวขึ้น 0.44% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
ดัชนี Nasdaq ปิดบวกเพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 6.2% ปิดที่ระดับ 37.63 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้กับราคา IPO ที่ระดับ 38 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 1.23%
หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.3% ขณะที่หุ้นกู๊ดเยียร์ พุ่งขึ้น 8.9%