ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 21.05 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 15,499.54 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.23 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 1,685.73 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 9.90 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 3,626.37 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยในช่วงแรกนั้น ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2556 ขยายตัว 1.7% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 1.1%
ขณะที่ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์
แต่ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมาหลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% ในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน
คริสโตเฟอร์ โลว์ นักวิเคราะห์จากเอฟทีเอ็ม ไฟแนนเชียล กล่าวว่า การที่เฟดระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางนั้น แทบจะไม่ต่างจากการแสดงความคิดเห็นในการประชุมครั้งก่อน นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการ QE
หุ้นเฟซบุ๊กร่วงลง 2.20% ปิดที่ระดับ 36.80 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นคอมคาสท์ พุ่งขึ้น 5.55% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิพุ่งขึ้น 29% ในไตรมาส 2 แตะที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์
หุ้นวีซาร่วงลง 7.5% ขณะที่หุ้นมาสเตอร์การ์ด ดีดตัวขึ้น 1.5% ส่วนหุ้นเจซี เพนนีย์ ดิ่งลง 10%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ก.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 345,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 343,000 ราย
นอกจากนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.ในวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนก.ค.จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 52.0 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 50.9