ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,470.67 จุด ลดลง 48.07 จุด หรือ -0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,690.91 จุด ลดลง 6.46 จุด หรือ -0.38% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,654.01 จุด ลดลง 11.76 จุด หรือ -0.32%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงซบเซา เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะลดขนาด QE หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ โดยนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า เฟดอาจเริ่มลดปริมาณการซื้อพันธบัตรในช่วงแรกในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งใดครั้งหนึ่งที่เหลืออยู่ในช่วงปีนี้ ขณะที่เฟดยังมีกำหนดการประชุมอีก 3 ครั้งในปีนี้
ทางด้านนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้กล่าวในวันเดียวกันว่า เขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะชะลอมาตรการกระตุ้นทางการเงินโดยการลดขนาดแผนการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองประธานเฟดแอตแลนตา
นอกจากนี้ นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดดัลลัสกล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากอัตราว่างงานที่ได้ลดลงมาอยู่ที่ 7.4% ในเดือนก.ค. เขาเชื่อว่าในขณะนี้เฟดมีแนวโน้มมากขึ้นในการดำเนินการเพื่อลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ และโดยส่วนตัวแล้ว เขาต้องการให้เริ่มลดสัดส่วนการซื้อพันธบัตรในฤดูใบไม้ร่วงนี้
หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลง 0.8% หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ฟ้องแบงก์ ออฟ อเมริกา ในคดีแพ่ง ในข้อหาหลอกลวงนักลงทุนเกี่ยวกับคุณภาพเงินกู้ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) วงเงิน 850 ล้านดอลลาร์
หุ้นดิสนีย์ ร่วงลง 1.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าตัวเลขกำไรที่ทรงตัวในรายไตรมาส ขณะที่หุ้นไทม์ วอร์เนอร์ ขยับลง 0.4%
ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 8.6%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ส.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 336,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 326,000 ราย