ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกเฟดลด QE ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 48.07 จุด

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 8, 2013 06:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,470.67 จุด ลดลง 48.07 จุด หรือ -0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,690.91 จุด ลดลง 6.46 จุด หรือ -0.38% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,654.01 จุด ลดลง 11.76 จุด หรือ -0.32%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงซบเซา เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะลดขนาด QE หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ โดยนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า เฟดอาจเริ่มลดปริมาณการซื้อพันธบัตรในช่วงแรกในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งใดครั้งหนึ่งที่เหลืออยู่ในช่วงปีนี้ ขณะที่เฟดยังมีกำหนดการประชุมอีก 3 ครั้งในปีนี้

ทางด้านนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้กล่าวในวันเดียวกันว่า เขาไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะชะลอมาตรการกระตุ้นทางการเงินโดยการลดขนาดแผนการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองประธานเฟดแอตแลนตา

นอกจากนี้ นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดดัลลัสกล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากอัตราว่างงานที่ได้ลดลงมาอยู่ที่ 7.4% ในเดือนก.ค. เขาเชื่อว่าในขณะนี้เฟดมีแนวโน้มมากขึ้นในการดำเนินการเพื่อลดขนาดการซื้อสินทรัพย์ และโดยส่วนตัวแล้ว เขาต้องการให้เริ่มลดสัดส่วนการซื้อพันธบัตรในฤดูใบไม้ร่วงนี้

หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลง 0.8% หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ฟ้องแบงก์ ออฟ อเมริกา ในคดีแพ่ง ในข้อหาหลอกลวงนักลงทุนเกี่ยวกับคุณภาพเงินกู้ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) วงเงิน 850 ล้านดอลลาร์

หุ้นดิสนีย์ ร่วงลง 1.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าตัวเลขกำไรที่ทรงตัวในรายไตรมาส ขณะที่หุ้นไทม์ วอร์เนอร์ ขยับลง 0.4%

ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 8.6%

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ส.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 336,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 326,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ