ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,451.01 จุด เพิ่มขึ้น 31.33 จุด หรือ +0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,694.16 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด หรือ +0.28% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,684.44 จุด เพิ่มขึ้น 14.49 จุด หรือ +0.39%
ในช่วงแรกนั้น ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 0.3% อยู่เล็กน้อย สะท้อนว่าผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ท่ามกลางการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ค่าแรงที่ทรงตัว และภาษีที่สูงขึ้น
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ราคานำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. หลังจากที่ลดลงตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นมาก ด้านราคาส่งออกในเดือนก.ค.ลดลง 0.1% เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งทั้งราคานำเข้าและส่งออกในเดือนก.ค.ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้ากล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ช่วงที่ผ่านมานั้น มีความผันผวนมาเกินกว่าที่จะสะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนว่า เฟดจะลดขนาด QE ในการประชุมเดือนก.ย.นี้
หุ้นยูเอส แอร์เวยส์ ร่วงลง 13.07% หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นหนังสือคัดค้านการควบรวมกิจการระหว่างยูเอส แอร์เวย์ส กรุ๊ป อิงค์ และเอเอ็มอาร์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลนส์ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นเอเอ็มอาร์ดิ่งลง 45.44%
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 4.75% หลังจากนายคาร์ล ไอคาห์น มหาเศรษฐีนักลงทุน ได้เปิดเผยผ่านทวีตเตอร์ว่า เขาได้เข้าทำโพสิชั่นครั้งใหญ่ในหุ้นแอปเปิล
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับขึ้น 0.7% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.7%
หุ้นฮิวเล็ต-แพคการ์ด ดีดตัวขึ้น 2.1% จากการคาดการณ์ที่ว่าผลประกอบการของบริษัทซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันที่ 21 ส.ค.นั้น จะออกมาแข็งแกร่ง นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี PPI ทั่วไปเดือนก.ค.จะเพิ่มขึ้น 0.3% และคาดว่าดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค.