ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกเฟดลด QE ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 113.35 จุด

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 15, 2013 06:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปหรือไม่ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณในทิศทางที่แตกต่างกันไป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,337.66 จุด ลดลง 113.35 จุด หรือ -0.73% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,685.39 จุด ลดลง 8.77 จุด หรือ -0.52% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,669.27 จุด ลดลง 15.17 จุด หรือ -0.41%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากความไม่มั่นใจเกี่ยวกับมาตรการ QE หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาที่แตกต่างกัน โดยนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดจำเป็นต้องประเมินข้อมูลเศรษฐกิจอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะเริ่มชะลอมาตรการ QE อย่างไรก็ตาม การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวก็ไม่สามารถหนุนตลาดในแดนบวกได้

ด้านนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เฟดอาจจะเริ่มต้นปรับลดขนาดมาตรการ QE ในการประชุมเดือนก.ย. แม้ว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม นายล็อคฮาร์ทยังกล่าวด้วยว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะไร้ทิศทางนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดยังคงไม่สามารถกำหนดแผนการอย่างละเอียดในการปรับลดและยุติ QE ได้ในเดือนหน้า ในขณะเดียวกันเขาคาดว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดขนาด QE ลงเล็กน้อย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อนับตั้งแต่จากภาคการผลิตไปจนถึงขนส่ง ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับเดิมหลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจได้รับแรงกดดันเพียงเล็กน้อยจากภาวะเงินเฟ้อ

หุ้นเมซี อิงค์ ร่วงลง 4.47% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่น้อยเกินคาด

ขณะที่หุ้นแอปเปิล อิงค์ พุ่งขึ้น 1.82% เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับนายคาร์ล ไอคาห์น มหาเศรษฐีนักลงทุน ซึ่งเปิดเผยผ่านทวีตเตอร์ว่า เขาได้เข้าทำโพสิชั่นครั้งใหญ่ในหุ้นแอปเปิล นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 333,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ