ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,112.19 จุด ลดลง 225.47 จุด หรือ -1.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,661.32 จุด ลดลง 24.07 จุด หรือ -1.43% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,606.12 จุด ลดลง 63.15 จุด หรือ -1.72%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงตั้งแต่เปิดทำการซื้อขาย และอ่อนแรงลงเรื่อยมาจนกระทั่งปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่าเฟดจะเดินหน้ามาตรการ QE หรือไม่ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งมีทั้งในด้านบวกและลบ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ส.ค.ปรับตัวลง 15,000 ราย สู่ระดับ 320,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2550 หรือในรอบเกือบ 7 ปี ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 333,000 ราย
ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเดือนก.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน
ด้านเฟดเปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงการผลิตในโรงงาน เหมืองแร่ และการผลิตด้านสาธารณูปโภค ทรงตัวในเดือนก.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนก.ค.ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 77.6% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 77.9%
นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจมหภาคในช่วงหลายเดือนและหลายไตรมาสข้างหน้ามีการปรับตัวดีขึ้นหรือไม่ และเงินเฟ้อปรับตัวใกล้เป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2% หรือไม่ ก่อนที่จะเริ่มชะลอมาตรการ QE โดยในปัจจุบันนายบูลลาร์ดมีความกังวลอย่างมากที่เงินเฟ้ออยู่ที่ราว 1% ซึ่งยังคงต่ำกว่าเป้าหมาย
หุ้นวอล-มาร์ท สโตร์ส ดิ่งลง 2.60% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังในไตรมาส 2
หุ้นซิสโก้ ซิสเต็มส์ ร่วงลง 7.17% หลังบริษัทเปิดเผยคาดการณ์ผลประกอบการประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.22-1.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่เฉลี่ยออกมาอยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด ร่วงลง 4.5% ภายหลังเลอโนโว ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง เปิดเผยผลกำไรในไตรมาสแรกที่เหนือเป้าหมายของนักวิเคราะห์ โดยเลอโนโวครองส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์โลกเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านสหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้น โดยหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน พุ่งขึ้น 5.7% หุ้นพัลท์ กรุ๊ป ปรับตัวขึ้น 5.3% หุ้นเคบี โฮม ดีดตัวขึ้น 5.3% และหุ้นเลนนาร์ คอร์ป พุ่งขึ้น 5.1%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.900 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. และคาดว่าตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างจะอยู่ที่ 0.945 ล้านยูนิตในเดือนก.ค.