ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 30.72 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 15,081.47 จุด ดัชนี S&P 500 ติดลบ 5.49 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 1,655.83 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับลง 3.34 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 3,602.78 จุด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเปิดตลาดลดลง หลังมีแรงเทขายอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดีและปรับตัวผันผวนก่อนที่จะปิดตลาดในแดนลบ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 และ 30 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ท่ามกลางความวิตกต่อเนื่องเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มชะลอมาตรการกระตุ้นทางการเงิน
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนส.ค.ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยดัชนีปรับลงแตะ 80 จาก 85.1 ในเดือนก.ค.
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบ แม้ข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนออกมาในเชิงบวก โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 896,000 ยูนิต แต่อัตราการเพิ่มขึ้นก็ยังต่ำกว่าคาดการณ์ ขณะที่ยอดการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.7% แตะที่ 943,000 ยูนิต
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าประสิทธิภาพการผลิตนอกภาคการเกษตรประจำไตรมาส 2 ของปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
หุ้นเดลล์บวกขึ้น 0.84% หลังจากบริษัทรายงานผลกำไรรายไตรมาสที่ร่วงลง 72% แต่ระบุถึงผลกำไรต่อหุ้นและรายได้ที่สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์