สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าร่วงลง 106.33 จุด หรือ 0.79% แตะที่ 13,290.05 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.
โบรกเกอร์กล่าวว่า ดัชนีนิกเกอิดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงเปิดตลาด โดยนิกเกอิพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงเวลาสั้นๆ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหลังจากดัชนีดิ่งลงไปกว่า 360 จุด หรือ 2.6% เมื่อวานนี้ แต่นิกเกอิถอยหลังลงสู่แดนลบในเวลาต่อมา เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดหลายแห่งในเอเชียเป็นไปอย่างซบเซา ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า การปรับลด QE ของเฟดอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ และจากการที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการปิดลบที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลงหนักสุด นำโดยหุ้นโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก) ที่ดิ่งลง 9.1% หลังจากบริษัทยอมรับว่า น้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี 300 ตันได้รั่วไหลออกจากถังเก็บน้ำที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิชิ
หุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วงลง 5.9% หุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ปรับตัวลง 2%
หุ้นฟานุค ขยับลง 0.5% และหุ้นเคียวเซร่า ปรับลง 1.1%