ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 11 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 15316 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 3 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 1686 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 10 จุด หรือ 0.3% แตะที่ 3715 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนแรงลงจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดขนาด QE หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการสร้างงานประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. ปรับตัวลง 31,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 292,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2549 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 330,000 ราย
ตลาดการเงินจับตาดูตัวเลขจ้างงานอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางการตัดสินใจของเฟดว่าจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ในการประชุมสัปดาห์หน้านี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเป็นระยะๆว่า เฟดอาจจะปรับลดขนาด QE หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หุ้นแบร์ริค โกลด์ปรับตัวลง 4.3% หลังจากสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ปรับตัวลง 1.4% ภายหลังมอร์แกน สแตนลีย์ลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงจากระดับ overweight สู่ระดับ equal weight
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ในวันพรุ่งนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.4% จากนั้นในเวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 82.0 ในช่วงต้นเดือนก.ย. จากระดับ 82.1 ของช่วงท้ายเดือนส.ค.