ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 25.96 จุด จากขายทำกำไร,วิตกเฟดลด QE

ข่าวต่างประเทศ Friday September 13, 2013 06:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกันในช่วง 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ข้อมูลด้านแรงงานที่ออกมาดีเกินคาดทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้เป็นเหตุผลในการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,300.64 จุด ลดลง 25.96 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,683.42 จุด ลดลง 5.71 จุด หรือ -0.34% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,715.97 จุด ลดลง 9.04 จุด หรือ -0.24%

นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกันในช่วง 3 วันทำการก่อนหน้านี้ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดของซีเรียเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลายลง โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียกล่าวว่า เขาตกลงที่จะมอบอาวุธเคมีให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาประเทศ ตามข้อเรียกร้องของรัสเซีย แต่ไม่ใช่ยินยอมเพราะคำขู่ของสหรัฐ

การเปิดเผยดังกล่าวของนายอัสซาดมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่สหรัฐเริ่มส่งสัญญาณชะลอการตัดสินใจเรื่องโจมตีซีเรีย โดยประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการลงมติในประเด็นการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย ซึ่งบ่งชี้ว่าฝ่ายบริหารจะพยายามใช้วิธีการทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตซีเรียในขณะนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะลดขนาด QE หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการสร้างงานประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. ปรับตัวลง 31,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 292,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2549 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 330,000 ราย

ตลาดการเงินจับตาดูตัวเลขจ้างงานอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางการตัดสินใจของเฟดว่าจะปรับลดขนาด QE หรือไม่ในการประชุมสัปดาห์หน้านี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเป็นระยะๆว่า เฟดอาจจะปรับลดขนาด QE หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หุ้นแบร์ริค โกลด์ปรับตัวลง 5.5% หลังจากสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีนี้

หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ดิ่งลง 1.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ในวันพรุ่งนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.4% จากนั้นในเวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 82.0 ในช่วงต้นเดือนก.ย. จากระดับ 82.1 ของช่วงท้ายเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ