ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,494.78 จุด เพิ่มขึ้น 118.72 จุด หรือ +0.77% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,697.60 จุด เพิ่มขึ้น 9.61 จุด หรือ +0.57% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,717.85 จุด ลดลง 4.33 จุด หรือ -0.12%
การถอนตัวของนายซัมเมอร์สอาจจะส่งผลให้นางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด มีโอกาสมากขึ้นที่จะได้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของเฟด โดยคาดกันว่านางเยลเลน ซึ่งมีท่าทีสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินนั้น จะยังคงสานต่อนโยบายผ่อนคลายของนายเบอร์นันเก้ต่อไป
ข่าวความเคลื่อนไหวของนายซัมเมอร์สมีขึ้นก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันอังคารและพุธนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะเริ่มชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรลง 1.0-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากวงเงินในปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่เป็นปัจจัยบวกเกี่ยวกับวิกฤตอาวุธเคมีซีเรีย หลังจากที่นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ได้บรรลุข้อตกลงเรื่องกรอบการทำลายอาวุธเคมีของซีเรียในการเจรจาที่กรุงเจนีวาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดได้ปัจจัยบวกมากขึ้นหลังจากเฟดเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 0.4% ได้รับแรงหนุนจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และภาคการผลิตอื่นๆที่มีการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 0.2% แตะ 77.8%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบเพราะได้รับแรงกดดันจากหุ้นแอปเปิลที่ร่วงลงถึง 3.18% มาปิดที่ระดับ 450.12 ดอลลาร์
หุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้น 3.9% ขณะที่หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส ดีดตัวขึ้น 3%
ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้น โดยหุ้นธนาคารเวลส์ฟาร์โก พุ่งขึ้น 1.7%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.2% และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 0.2%