ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น ขานรับเฟดเดินหน้า QE, ยอดขายบ้านมือสองพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 19, 2013 22:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 15.45 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 15,692.39 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.88 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 1,729.40 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 13.95 จุด หรือ 0.37% แตะที่ 3,797.59 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงปรับตัวขึ้นขานรับเฟดที่ประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ

ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมระบุว่าเฟดตัดสินใจที่จะรอดูหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ก่อนที่เฟดจะปรับเปลี่ยนขนาดโครงการซื้อพันธบัตรซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น จนกว่าอัตราว่างงานจะแตะ 6.5% และอัตราเงินเฟ้อไม่เคลื่อนไหวสูงกว่า 2.5%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 1.7% แตะระดับ 5.48 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.25 ล้านยูนิต บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระดับหนึ่งหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15,000 ราย แตะระดับ 309,000 ราย แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ่นแตะระดับ 330,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 292,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ